ในปี ร.ศ. 126 ขณะที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์ ได้เสด็จประพาสเมืองลพบุรี คืนหนึ่งมีผู้ตามเสด็จท่านหนึ่งได้มีนิมิตฝันประหลาดเห็นชายหุ่นล่ำสันใหญ่โตมาหา บอกว่าชื่อ "หิรัญ" เป็นอสูรชาวป่ามาบอกว่า ต่อแต่นี้เขาจะคอยตามเสด็จพระองค์ไม่ว่าจะประทับอยู่ที่ใด เขาจะคอยดูแลและระวังภัยไม่ให้เกิดขึ้นกับพระองค์ท่านได้ เมื่อทรงทราบเหตุการณ์ในฝันจึงทรงมีพระราชดำรัสให้จุดธูปเทียน จัดเตรียมอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญฮู" ในป่าเมืองลพบุรีนั้นทันที และทุกครั้งไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปแห่งหนใด ในเวลาค่ำถึงยามเสวย พระองค์จะมีพระราชดำรัสให้จัดอาหารเซ่นสังเวย "ท้าวหิรัญฮู" ทุกครั้งไป
และเมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังทรงระลึกถึงท้าวหิรัญฮูอยู่เสมอ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ช่างหลวงมาหล่อรูปท้าวหิรัญฮูด้วยทองสัมฤทธิ์ จากนั้นก็โปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชบริพารจัดเครื่องเซ่นสังเวย และเชิญท้าวหิรัญฮูเข้าสถิตในรูปหล่อนั้น พระราชนามให้ว่า "ท้าวหิรัญพนาสูร" แต่งองค์ทรงเครื่องสวมชฎาแบบโบราณ มีไม้เท้าเป็นเครื่องประดับยศ
มหาดเล็กคนสนิทผู้หนึ่งคือ "จมื่นเทพดรุณทร" ได้เล่าให้ข้าราชบริพารฟังต่อ ๆ กันมาว่า "ในหลวง (ร.6) ทรงเรียกท้าวหิรัญพนาสูรว่า "ตาหิรัญฮู" ซึ่งคนในวังสมัย ร.6 จะรู้ถึงกิตติศัพท์ของ "ตาหิรัญฮู" ดีว่าสำแดงเดชและอภินิหารอย่างไรบ้าง จึงเล่ากันปากต่อปากเรื่อยมา อย่างเรื่องแรกเกิดขึ้นเมื่อโปรดให้สร้างรูปท้าวหิรัญพนาสูร โดยให้พระยาอาทรธรศิลป์ (ม.ล.ช่วง กุญชร) เป็นผู้ดำเนินการ โดยมีแกลเลตตี นายช่างชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานในกรมศิลปากรเป็นผู้หล่อ เมื่อหล่อเสร็จก็จะยกขึ้นตั้งบนฐานในพระราชวังพญาไท แกลเลตตีก็เอาเชือกผูกคอท้าวหิรัญฮูชักรอกขึ้นไป เสร็จแล้วแกลเลตตีก็ป่วยกะทันหันทำงานไม่ได้ เพราะคอเคล็ดโดยไม่รู้สาเหตุ พอพระยาอาทรไปเยี่ยม ท่านพอจะรู้สาเหตุจึงบอกว่าคงเป็นเพราะเอาเชือกไปผูกคอรูปหล่อท้าวหิรัญฮูให้เอาดอกไม้ ธูป เทียนไปขอขมาเสีย เมื่อนายช่างชาวอิตาเลี่ยนทำตามคอที่เคล็ดจึงกลับมาเป็นปกติอย่างอัศจรรย์
อีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว วันหนึ่งพระองค์ได้เสด็จฯ ตรวจรถยนต์พระที่นั่ง ซึ่งเป็นพระราชมรดก โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ตามเสด็จ กรมหมื่นฯ ได้กราบทูลขอรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งมีรูปท้าวหิรัญฮูติดอยู่ด้วย พระองค์ก็พระราชทานให้ เล่ากันว่าเมื่อเอารถกลับไปไว้ที่วังสี่แยกหลานหลวง คืนนั้นก็นอนไม่หลับ ได้ยินเสียงกุกกัก ๆ ในโรงเก็บรถทั้งคืน ครั้นลุกไปดูก็ไม่เห็นมีอะไร จึงคิดว่าอาจเป็นเสียงหนู แต่ขณะที่กำลังคิดในทางที่ดีก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เพราะจู่ ๆ ไฟในโรงรถก็เกิดสว่างจ้าขึ้นมาเฉย ๆ ทั้ง ๆ ที่โรงรถปิดอยู่ จึงเรียกคนขับรถและมหาดเล็กไปช่วยกันดู แต่พอเปิดประตูโรงเก็บรถก็ต้องใจหายเป็นครั้งที่ 2 เพราะไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย และยังน่าสงสัยที่เห็นรถจอดขวางโรง ซึ่งแต่แรกไม่ได้จอดในลักษณะนี้ จึงต้องช่วยกันกลับรถจอดใหม่ จากนั้นรุ่งขึ้น พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ต้องจัดเครื่องเซ่นสังเวยท้าวหิรัญฮูเพื่อขอขมา และไม่กล้าใช้รถพระราชทานคันนั้นอีกเลย
วัตถุมงคล ท้าวหิรัญพนาสูร (ฮู ) คลิ๊ก !!!
บทสวดบูชาท้าวหิรัญพนาสูร
ก่อนเริ่มสวดคาถาบูชาท้าวหิรัญพนาสูร ต้องตั้งจิตให้เป็นสมาธิและจุดธูปตามจำนวนที่กำหนด หากต้องการไหว้ขอพร ให้จุดธูป 9 ดอก หากต้องการไหว้บนบาน ให้จุดธูป 16 ดอก หลังจากนั้น ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วกล่าวคาถาต่อไปนี้ "ระหินะ ภูมาสี ภะสะติ นิรันตะรัง ลาภะสุขัง ภะวันตุเม" (สวด 9 จบ)
ของสักการะท้าวหิรัญพนาสูร
นิยมถวายดอกดาวเรือง ดอกไม้สด ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม หรือจะทำเป็นบายศรีดอกไม้มาถวายก็ได้ รวมถึงหมากพลู ขนมไทยโบราณ ผลไม้ชนิดต่างๆ เช่น กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อน ขนุน และสับปะรด
ท้าวหิรัญพนาสูร บ้างก็เรียกว่าท้าวหิรัญฮู หรือท้าวฮู เป็นอสูรเทพที่มีความเชื่อมโยงกับคำทำนายโรคระบาดของประเทศไทย (ตามความเชื่อส่วนบุคคล) โดยเชื่อว่าราวเดือนเมษายน พ.ศ.2463 เป็นช่วงเวลาที่มีการสร้างตำหนักแห่งหนึ่งขึ้น ผีที่ทำหน้าที่คอยดูแลคุ้มครองเจ้านายชั้นสูงก็ได้ติดตามมาด้วย และได้สื่อสารกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์โรคระบาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ผีตนนั้นได้มาบอกถึงสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นว่าอีก 100 ปีข้างหน้า (นับจากเดือนเมษายน พ.ศ.2463 ก็คือ เดือนเมษายน พ.ศ.2563) จะเกิดโรคระบาดรุนแรงที่รักษาได้ยาก ผู้คนล้มตายจำนวนมาก โดยโรคระบาดจะเลวร้ายที่สุดในวันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ.2564 และสถานการณ์โรคระบาดนี้จะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2565 จากตำนานลึกลับที่เล่าสืบต่อกันมา ทำให้หลายคนเชื่อว่าผีตนนั้นหมายถึง "ท้าวหิรัญพนาสูร" และโรคระบาดก็คือ "โควิด-19" นั่นเอง